อาหารผู้ป่วย อาหารฟื้นฟูร่างกาย ผู้ป่วย Long covid

อาหารผู้ป่วย อาหารฟื้นฟูร่างกาย ผู้ป่วย Long covid สถานการณ์โควิด 19 ยังน่าเป็นห่วง จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน แม้ว่าตัวเลขผู้หายป่วยก็มีมากเช่นกัน แต่รู้หรือไม่ว่าหนึ่งในกลุ่มผู้ป่วยที่รักษาหายประมาณ 30 – 50 เปอร์เซ็นต์ มีโอกาสเป็นภาวะลองโควิด (Long Covid) ตามมาอีกได้ โดยเฉพาะผู้ที่เคยมีอาการป่วยรุนแรง ดังนั้นหมั่นสังเกตอาการ ดูแลรักษาร่างกายให้ดี พร้อมเสริมภูมิคุ้มกันด้วยอาหารที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพสำหรับผู้ป่วย ลองโควิด (Long Covid) ดังต่อไปนี้

อาการลองโควิด (Long Covid) เป็นภาวะที่เกิดขึ้นหลังหายป่วยจากโควิด 19 ส่งผลให้ผู้ที่หายป่วยบางราย ยังไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นจะแตกต่างกันไป ดังนั้นผู้มีอาการลองโควิด (Long Covid) ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงและสร้างเสริมภูมิคุ้มกันด้วยการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นปรุงสุก สะอาด และย่อยง่าย เนื่องจากร่างกายอาจมีความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร นอกจากนี้หากมีอาการเบื่ออาหารควรแบ่งอาหารเป็นมื้อย่อย ๆ หลาย ๆ มื้อ เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ตลอดวัน ไม่ให้ร่างกายอ่อนล้า อ่อนเพลีย และควรเลือกกินอาหารดังนี้

– กินโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นม เนยแข็ง ถั่วต่าง ๆ เต้าหู้ เป็นต้น
– กินอาหารที่มีจุลินทรีย์สุขภาพ หรือโพรไบโอติกส์ (Probiotics) ได้แก่ โยเกิร์ต นมเปรี้ยว โดยเลือกชนิดที่มีนํ้าตาลน้อย
– กินอาหารที่มีใยอาหารสูง เช่น ธัญพืช ถั่วเมล็ดแห้ง กล้วย หัวหอมใหญ่ กระเทียม เป็นต้น เพื่อเป็นอาหารให้จุลินทรีย์สุขภาพ และยังช่วยระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
– หลีกเลี่ยงอาหาร Junk Food เช่น อาหารสำเร็จรูป อาหารแช่แข็ง อาหารหมักดอง อาหารปิ้งย่าง ของทอด ของมัน หรืออาหารรสจัด ย่อยยาก และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาหารเหล่านี้มีผลทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลง

เพิ่มวิตามิน เพื่อฟื้นฟู และสร้างภูมิคุ้มกัน
นอกจากนี้ไม่ควรมองข้ามวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ เพราะมีส่วนช่วยซ่อมแซมให้ร่างกายได้กลับมาฟื้นฟู แข็งแรง และสร้างภูมิคุ้มกัน ได้เป็นอย่างดี โดยวิตามินที่เหมาะสำหรับผู้ป่วย ลองโควิด (Long Covid) มีดังนี้

1. วิตามินซี พบมากในผักและผลไม้สด เช่น ส้ม มะละกอ ฝรั่ง มะนาว มะเขือเทศ พริกหวาน เป็นต้น ควรกินแบบสด หากนึ่งหรือผัดควรใช้ระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อรักษาคุณค่าจากวิตามินซี

2. วิตามินเอ เช่น เครื่องในสัตว์ ไข่แดง นม ผลิตภัณฑ์จากนม ผักใบเขียวเข้ม ผักและผลไม้สีเหลืองและสีส้ม เช่น ตําลึง ผักบุ้ง แคร์รอต ฟักทอง มันเทศสีเหลือง มะละกอสุก เป็นต้น

3. วิตามินดี เช่น ปลานิล ปลาทับทิม เห็ด ไข่แดง เป็นต้น

4. วิตามินอี เช่น ไข่ ผัก และผลไม้ต่าง ๆ เช่น ถั่ว นํ้ามันถั่วเหลือง นํ้ามันมะกอก นํ้ามันดอกทานตะวัน อะโวคาโด เป็นต้น

5. แร่ธาตุสังกะสี เช่น เนื้อสัตว์ เครื่องใน ตับ หอยนางรม ข้าวกล้อง เป็นต้น